ไม่มีใครไม่เคยเจ็บป่วย จะมากหรือน้อยคนเราย่อมต้องเคยไม่สบายกันทั้งนั้น ไหนจะอุบัติเหตุที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อทั้งจากตัวเราเอง และคนรอบข้าง นี่จึงเป็นเหตุผลให้การทำประกันสุขภาพเป็นเรื่องจำเป็นของทุกคน
การทำประกันสุขภาพที่เหมาะสมคือต้องครอบคลุมการเจ็บป่วยในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุเล็ก ๆ เจ็บป่วยน้อย ๆ ไปจนถึงการผ่าตัด การรักษาโรคร้ายแรง ซึ่งทุกครั้งเมื่อเราต้องพิจารณาเลือกแบบประกันสุขภาพ เรามักจะพบกับคำศัพท์ 2 คำเป็นประจำ นั่นคือ OPD และ IPD ทั้งสองคำนี้คืออะไร เกี่ยวข้องอย่างไรกับการเลือกซื้อประกันสุขภาพ มาดูกัน
OPD คือคำเรียกกลุ่มผู้ป่วยนอก ย่อมาจาก Out Patient Department โดย OPD คือศัพท์ทางการแพทย์ใช้เรียกผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลแบบไม่ต้องนอนพัก จะเข้ามาเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยรักษา ฉีดยา ทำกายภาพ และรับยากลับไปดูแลตัวเองที่บ้าน ส่วนมากผู้ป่วย OPD คือผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพไม่รุนแรง เช่น ไข้หวัดธรรมดา ปวดท้องจากอาหารเป็นพิษ หรือโรคกระเพาะ ผดผื่น และอุบัติเหตุเล็กน้อย เป็นต้น
IPD คือคำเรียกกลุ่มผู้ป่วยใน ย่อมาจาก In Patient Department คำว่า IPD คือศัพท์ทางการแพทย์ใช้เรียกผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเกินกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไปตามคำวินิจฉัยของแพทย์ให้ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ไม่อนุญาตให้กลับบ้านได้ ผู้ป่วย IPD คือผู้ป่วยที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด หรืออาจต้องมีการเตรียมพร้อมรักษาด้วยการนอนที่โรงพยาบาลก่อน เช่น การผ่าตัด หรืออาการปวดท้องอย่างรุนแรง อุบัติเหตุหนัก หรือโรคร้ายแรง เป็นต้น
ถ้าเราสังเกตแบบประกันสุขภาพให้ดีก่อนซื้อจะพบว่าแต่ละแบบประกันจะระบุถึงความคุ้มครอง OPD และ IPD เอาไว้ ทำให้ก่อนตัดสินใจเลือกทำประกันสุขภาพต้องเปรียบเทียบข้อมูลให้ดีก่อนทุกครั้ง ต่อไปนี้คือข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างประกันแบบ OPD และ IPD
คนส่วนมากมักทำประกันโดยเน้นความคุ้มครองผู้ป่วยใน หรือ IPD และมองข้ามความคุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก หรือ OPD ไป เพราะคิดว่าเป็นการเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือมีสวัสดิการเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่ในการรักษาพยาบาลจริงหากประกัน OPD ไม่ครอบคลุมก็อาจกระทบกับเงินในกระเป๋าได้เช่นกัน หากใครยังไม่ตัดสินใจเพิ่มเติมความคุ้มครองแบบ OPD นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องมีทั้งประกัน OPD และ IPD
ประกันสุขภาพทุกวันนี้ให้การคุ้มครองที่หลากหลายและมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ก่อนซื้อจึงควรพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบด้าน ดังนี้
ประกันสุขภาพ PRUEasy Care Extra
ประกันสุขภาพ PRUe-EASY Health Extra
ประกันสุขภาพ PRUHealthy Plus
ประกันสุขภาพ Cancer Protect
เป็นอย่างไรบ้างเมื่อรู้แล้วว่า OPD และ IPD คืออะไร และต่างกันอย่างไร จะดีแค่ไหนถ้าทุกครั้งที่เราเจ็บป่วย ก็มีความคุ้มครองมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเสมอ ทั้งอุบัติเหตุ เจ็บป่วยเล็กน้อยแบบผู้ป่วยนอก นอนโรงพยาบาลแบบผู้ป่วยใน เงินก้อนใหญ่เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง หรือแม้แต่เงินชดเชยรายได้เมื่อต้องนอนโรงพยาบาล ทั้งหมดนี้เราเลือกความคุ้มครองให้ตัวเองได้ เพิ่มความมั่นใจ ไม่เสียหลักหากต้องเจ็บป่วยฉุกเฉิน
Tags :
ประกันสุขภาพคุ้มครองเหมาจ่ายทั้ง IPD+OPD แผนประกันหลากหลาย เลือกความคุ้มครองได้ตามใจ
อัปเกรดสวัสดิการมนุษย์เงินเดือน เบี้ยเริ่มต้น 14 บ./วัน