รวมลิสต์ 34 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ฉบับอัปเดตล่าสุด


หนึ่งในสิ่งที่ทำให้นักเดินทางว้าวุ่นเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศก็คือการขอวีซ่า ที่มีขั้นตอนการเตรียมเอกสารและการยื่นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร การเลือกท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าจึงเป็นทางเลือกที่นักเดินทางให้ความสนใจ ยิ่งตอนนี้ผู้ถือพาสปอร์ตประเทศไทยสามารถเดินทางไปยัง 34 ประเทศทั่วโลกได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า ก็ยิ่งดึงดูดให้คนรุ่นใหม่สายเที่ยวอยากออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในต่างแดน

ข้อควรรู้ “ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า”

อย่างที่บอกว่าการท่องเที่ยวในประเทศที่ต้องมีวีซ่าจะเพิ่มขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเดินทางค่อนข้างมาก นักเดินทางบางรายจึงหันมาเลือกท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าแทน แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า” จริง ๆ นั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ ประเทศกลุ่ม Free Visa และ Visa on Arrival

  • Free Visa คือ ประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า เพราะมีการทำสนธิสัญญาระหว่างกันในการยกเว้นการตรวจลงตราก่อนเข้าประเทศ ใช้เพียงพาสปอร์ตไทยและเอกสารที่จำเป็นยื่นต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองให้ตรวจสอบและบันทึกประวัติการเดินทาง ก็สามารถเข้าประเทศได้
  • Visa on Arrival คือ ประเทศที่ยังต้องใช้วีซ่าเพื่อเข้าประเทศ แต่สามารถยื่นเรื่องได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้น ๆ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะตรวจลงตราก่อนเข้าประเทศได้ทันที ไม่ต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าล่วงหน้าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลก่อนเดินทาง

34 ประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวไทย

พาสปอร์ตสำหรับบุคคลธรรมดาของประเทศไทย (ปกสีน้ำตาล) สามารถใช้เดินทางเข้าประเทศที่ยกเว้นการตรวจลงตราได้ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละประเทศ ซึ่งแบ่งกลุ่มตามระยะเวลาเข้าประเทศได้ดังนี้

  • ระยะเวลา 14 วัน ได้แก่ บาห์เรน บรูไน กัมพูชา เมียนมา และไต้หวัน (ไต้หวันกำหนดให้เดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่ 1 ส.ค. 65 - 31 ก.ค. 67)
  • ระยะเวลา 15 วัน ได้แก่ ญี่ปุ่น
  • ระยะเวลา 30 วัน ได้แก่ ฮ่องกง อินโดนีเซีย คาซัคสถาน ลาว มาเก๊า มองโกเลีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ กาตาร์ รัสเซีย เซเชลส์ สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ ทาจิกิสถาน ตุรกี อาตู เวียดนาม และมณฑลไห่หนาน (จีน)
  • ระยะเวลา 60 วัน ได้แก่ คีร์กีซสถาน กำหนดให้เดินทางเข้าประเทศได้ตั้งแต่ 1 ส.ค. 64 - 31 ก.ค. 68
  • ระยะเวลา 90 วัน ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี เอกวาดอร์ สาธารณรัฐเกาหลี เปรู
  • ระยะเวลา 180 วัน ได้แก่ ปานามา
  • ระยะเวลา 365 วัน ได้แก่ จอร์เจีย

  • 9 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ใช้ Visa on Arrival ได้


    ประเทศกลุ่มนี้เพียงถือพาสปอร์ตไทยเข้าไป ก็จะได้รับการตรวจลงตราที่ปลายทางได้ทันที หรือที่เรียกว่า Visa on Arrival โดยมีเงื่อนไขและอัตราค่าธรรมเนียมตามที่แต่ประเทศกำหนด ดังนี้

    • โบลิเวีย พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ค่าธรรมเนียม 135 เหรียญสหรัฐ (เฉพาะวีซ่าท่องเที่ยว)
    • ฟิจิ พำนักได้ไม่เกิน 4 เดือน ไม่มีค่าธรรมเนียม
    • จอร์แดน พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ค่าธรรมเนียม 40 ดีนาร์จอร์แดน
    • คีร์กีซสถาน
      • พำนักไม่เกิน 15 วัน ค่าธรรมเนียม 50 เหรียญสหรัฐ
      • พำนักไม่เกิน 1 เดือน ค่าธรรมเนียม 60 เหรียญสหรัฐ
    • เนปาล
      • พำนักไม่เกิน 15 วัน ค่าธรรมเนียม 25 เหรียญสหรัฐ
      • พำนักไม่เกิน 30 วัน ค่าธรรมเนียม 40 เหรียญสหรัฐ
      • พำนักไม่เกิน 90 วัน ค่าธรรมเนียม 100 เหรียญสหรัฐ
    • นีอูเอ พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ไม่มีค่าธรรมเนียม
    • โอมาน พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ค่าธรรมเนียม 20 เรียลโอมาน
    • หมู่เกาะโซโลมอน พำนักได้ไม่เกิน 3 เดือน ไม่มีค่าธรรมเนียม
    • ติมอร์-เลสเต พำนักได้ไม่เกิน 30 วัน ค่าธรรมเนียม 30 เหรียญสหรัฐ

ข้อมูลจากกรมการกงสุล ณ วันที่ 8 กันยายน 2566 https://image.mfa.go.th/mfa/0/zE6021nSnu/เอกสาร/THA.pdf อย่างไรก็ดี ลิสต์รายชื่อประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าจะมีการอัปเดตอยู่เสมอ ก่อนตัดสินใจเดินทางควรตรวจสอบข้อมูลข้อมูลอีกครั้งผ่านสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงการต่างประเทศ ได้แก่ กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ โทร. 0-2643-5128 / กรมยุโรป โทร.0-2643-5140 / กรมเอเชียตะวันออก โทร. 0-2643-5194 / กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โทร. 0-2203-5000 ต่อ 12074


5 สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม ก่อนเที่ยวในประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า


เมื่อมีประเทศในใจที่อยากไปท่องเที่ยวแล้ว สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง ไม่ใช่แค่ลาพักร้อน จัดเสื้อผ้า หรือจองตั๋ว จองที่พักเท่านั้น มาดูกันว่าก่อนไปเที่ยวประเทศไม่ต้องขอวีซ่า เราต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง

  1. เอกสารสำคัญ
    อาทิ หนังสือเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน ใบรับรองแพทย์ กรณีมีโรคประจำตัว หรือมีความเสี่ยงจากการเดินทาง นอกจากนี้อาจเตรียมเอกสารที่ยืนยันความน่าเชื่อถือของตัวบุคคล อย่างใบรับรองการทำงาน พกติดตัวไปด้วย เพื่อยืนยันว่าเราเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวหรือทำงาน โดยไม่มีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงที่ขัดต่อกฎหมาย เพราะต่อให้เป็นประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า ก็สามารถปฏิเสธการเข้าประเทศได้หากเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าบุคคลนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ
  2. เงินสดและบัตรเครดิต
    ควรแลกเงินมาให้พร้อมก่อนเดินทาง และมีเงินสำรองแยกใส่กระเป๋าอีกใบไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน หรือในบางประเทศที่ต้องทำ Visa on Arrival ก็ให้เตรียมเงินค่าธรรมเนียมมาเผื่อไว้ด้วย รวมทั้งบัตรเครดิตและเดบิต พกติดตัวไว้เพิ่มความอุ่นใจ
  3. เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
    อย่าลืมเช็คข้อมูลว่าประเทศที่เราจะเดินทางไปในช่วงเวลานั้นมีอุณหภูมิเฉลี่ยเท่าไหร่ ควรเลือกเสื้อผ้าให้พอดีกับอากาศ โดยเฉพาะในประเทศที่อากาศหนาวเย็น หากเสื้อผ้าที่เตรียมไปเอาไม่อยู่ ก็อาจทำให้เจ็บป่วยระหว่างการเดินทางได้ หรือในทริปที่มีการเดินทางสมบุกสมบัน ก็ควรเตรียมของใช้ที่จำเป็นให้พร้อมด้วย
  4. ยารักษาโรค
    สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวควรพบแพทย์ก่อนออกเดินทาง หรือเตรียมยาที่ต้องใช้ประจำติดตัวไปด้วย แต่ทั้งนี้ต้องเช็คข้อมูลก่อนว่าประเทศที่เราจะเดินทางไปมีตัวยาต้องห้ามที่ไม่อนุญาตให้นำเข้าประเทศหรือไม่ อย่างเช่นยาในกลุ่มบรรเทาอาการหวัดก็ถูกห้ามนำเข้าในบางประเทศ
  5. ประกันการเดินทาง
    เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่หากเกิดขึ้นในต่างประเทศรับรองว่าไม่สนุกแน่ ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยทั่วไป โรคระบาด โรคติดต่อ โรคประจำตัวกำเริบ หรือความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิต และเหตุไม่คาดฝันจากการเดินทาง เช่น กระเป๋าเดินทางชำรุด เสียหาย หรือเที่ยวบินล่าช้า ทั้งหมดนี้ควรเตรียมรับมือเอาไว้ล่วงหน้าด้วยการทำประกันการเดินทาง ที่เดี๋ยวนี้มีให้เลือกมากมาย โดยเราสามารถเปรียบเทียบความคุ้มครองและทุนประกันที่ตอบโจทย์ได้ง่าย ๆ แค่ คลิก

อย่าปล่อยให้การออกไปเผชิญโลกกว้างต้องสะดุดลง เพราะการเตรียมตัวที่ไม่พร้อมก่อนเดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหน ต้องหาข้อมูลให้ชัวร์ และพกความคุ้มครองจากประกันการเดินทางติดตัวไปด้วยเสมอ เพื่อให้คนเดินทางมั่นใจตลอดทริป และคนที่บ้านก็อุ่นใจเช่นกัน

หรือ

สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ต้องการจัดการกรมธรรม์

สวัสดี คุณ

สวัสดี